ตารางคะแนนยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก
เช็คตารางคะแนนบอลยูฟ่าฯ ได้ที่นี่ โดยเราจะมีการอัพเดทผลคะแนนและอันดับของแต่ละสโมสรแบบเรียลไทม์ ให้แฟนบอลติดตามการแข่งขันลีกดังประจำฤดูกาล 2019/20 ได้อย่างต่อเนื่อง
กลุ่ม | ทีม | W | D | L | GD | PTS |
---|---|---|---|---|---|---|
กลุ่ม A | PSG | 5 | 1 | 0 | 15 | 16 |
กลุ่ม A | Real Madrid | 3 | 2 | 1 | 6 | 11 |
กลุ่ม A | Club Brugge | 0 | 3 | 3 | -8 | 3 |
กลุ่ม A | Galatasaray | 0 | 2 | 4 | -13 | 2 |
กลุ่ม B | Bayern | 6 | 0 | 0 | 19 | 18 |
กลุ่ม B | Tottenham | 3 | 1 | 2 | 4 | 10 |
กลุ่ม B | Olympiacos | 1 | 1 | 4 | -6 | 4 |
กลุ่ม B | Crvena Zvezda | 1 | 0 | 5 | -17 | 3 |
กลุ่ม C | Man. City | 4 | 2 | 0 | 12 | 14 |
กลุ่ม C | Atalanta | 2 | 1 | 3 | -4 | 7 |
กลุ่ม C | Shakhtar Donetsk | 1 | 3 | 2 | -5 | 6 |
กลุ่ม C | Dinamo Zagreb | 1 | 2 | 3 | -3 | 5 |
กลุ่ม D | Juventus | 5 | 1 | 0 | 8 | 16 |
กลุ่ม D | Atletico Madrid | 3 | 1 | 2 | 3 | 10 |
กลุ่ม D | Bayer | 2 | 0 | 4 | -4 | 6 |
กลุ่ม D | Lokomotiv Moskow | 1 | 0 | 5 | -7 | 3 |
กลุ่ม E | Liverpool | 4 | 1 | 1 | 5 | 13 |
กลุ่ม E | Napoli | 3 | 3 | 0 | 7 | 12 |
กลุ่ม E | Red Bull | 2 | 1 | 3 | 3 | 7 |
กลุ่ม E | Genk | 0 | 1 | 5 | -15 | 1 |
กลุ่ม F | Barcelona | 4 | 2 | 0 | 5 | 14 |
กลุ่ม F | Dortmund | 3 | 1 | 2 | 0 | 10 |
กลุ่ม F | Inter Milan | 2 | 1 | 3 | 1 | 7 |
กลุ่ม F | Slavia Praha | 0 | 2 | 4 | -6 | 2 |
กลุ่ม G | RB Leipzig | 3 | 2 | 1 | 2 | 11 |
กลุ่ม G | Lyon | 2 | 2 | 2 | 1 | 8 |
กลุ่ม G | Benfica | 2 | 1 | 3 | -1 | 7 |
กลุ่ม G | Zenit | 2 | 1 | 3 | -2 | 7 |
กลุ่ม H | Valencia | 3 | 2 | 1 | 2 | 11 |
กลุ่ม H | Chelsea | 3 | 2 | 1 | 2 | 11 |
กลุ่ม H | Ajax | 3 | 1 | 2 | 6 | 10 |
กลุ่ม H | Lille | 0 | 1 | 5 | -10 | 1 |
ทุกสโมสรในยุโรปต้องการที่จะชนะยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก และมีตำแหน่งบนหัวตารางคะแนนยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก แต่มีเพียงทีมแกร่งที่สุดเท่านั้นที่ทำได้ แน่นอนว่าการเป็นทีมรองอันดับต้นๆ ในประเทศของคุณนั้นสำคัญอย่างยิ่ง แต่การเป็นแชมป์ยุโรปนั้นคือเป้าหมายสูงสุด โดยฤดูกาลที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่ามีหลายทีมที่โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมเป็นที่น่าจดจำพร้อมกับการคัมแบ็คที่น่าทึ่ง โดยผีแดง เอาชนะ ปารีสฯ ในฐานะทีมเยือน ทั้งๆ ที่แพ้มาแล้วในรอบแรก และขาดผู้เล่นหลัก ในขณะที่ลิเวอร์พูลเอาชนะบาร์เซโลน่าในฐานะทีมเหย้า 4-0
หลายสโมสรจากอังกฤษผ่านเข้ารอบสุดท้ายเมื่อฤดูกาลก่อน ลิเวอร์พูล เอาชนะ สเปอร์ส และกลายเป็นแชมป์ยุโรปครั้งที่ 6 ของประวัติศาสตร์สโมสร แล้วปีนี้จะเป็นอีกครั้งหรือไม่ ที่ทีมจากประเทศอังกฤษจะขึ้นแท่นแชมป์ยุโรป เป็นอันดับหนึ่งในตารางคะแนนยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก? แมนเชสเตอร์ซิตี้ ไม่ใช่ทีมเดียวที่กำลังฝันจะขึ้นเป็นใหญ่ในยุโรป เพราะมี ปารีสฯ, ยูเวนตุส, เรอัลมาดริด, บาร์เซโลน่า และบาเยิร์นมิวนิค ที่ต่างก็เป็นคู่แข่งสำคัญในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2019-2020 โดย Premierchampions.net จะติดตามและรายงานความเคลื่อนไหวของการตารางอันดับยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ให้แฟนบอลทราบอย่างต่อเนื่อง
ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก อันที่จริงแล้วได้เริ่มต้นขึ้นนานแล้ว เนื่องจากลีกนี้เป็นการรวมเอาแชมป์ระดับประเทศมาประชันแข้งกัน ซึ่งหากเรามองให้ลึก บางประเทศที่เป็นตัวท็อป อย่างเช่น อังกฤษและสเปน แน่นอนว่าต้องเข้ารอบลึกๆ ส่วนทีมชาติรองอื่นๆ ที่ยังต้องผ่านรอบแบ่งกลุ่ม รอบคัดเลือกครั้งที่ 1,2,3 รวมถึงรอบเพลย์ออฟ ทำให้เราเห็นว่าถนนสายนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มีทีมใหญ่หลายทีมที่ซีซั่นนี้ต้องตกชั้นไปเล่นยูโรป้าลีก อย่าง ปอร์โต้ ที่ปกติเข้าชิงถึงรอบน็อกเอ้าท์ กลับไปพลาดท่าตั้งแต่รอบคัดเลือกรอบที่ 3 ให้กับ คราสโนดาร์ หรืออย่าง พีเอสวี อินโดเว่น แพ้ให้กับ ลินซ์ และ สก็อตติชแชมเปี้ยนอย่าง เซลติก แพ้ให้กับ ซีเอฟอาร์ คลูจ์ ตั้งแต่รอบ 3 ของการแบ่งกลุ่ม มีเพียง เร้ด สตาร์ เบลเกร เท่านั้นที่ทำทุกอย่าง ตั้งแต่รอบคัดเลือกรอบแรก จนถึงรอบแบ่งกลุ่ม ทั้งหมด 8 เกมส์ และเข้ารอบมาได้ อาแจ็กซ์ที่เข้ารอบรองชนะเลิศในฤดูกาลที่ผ่านมา ต้องเล่น 4 นัด กว่าจะผ่านเข้ามาสู่รอบแบ่งกลุ่ม
ทีมชิงหัวตารางคะแนนยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก
แมนฯ ซิตี้ – นับตั้งแต่การลงทุนของแมนเชสเตอร์ซิตี้ผู้มั่งคั่ง สโมสรก็ใฝ่ฝันจะได้ขึ้นเป็นแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งสิ่งที่ใกล้ที่สุดที่พวกเขาทำได้ คือการได้รับตำแหน่งรองชนะเลิศในซีซั่น 2015/16 โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาดูเหมือนแมนฯ ซิตี้ได้แต่นั่งมองทีมจากอังกฤษ อย่างลิเวอร์พูล และสเปอร์ส เข้ารอบรองชนะเลิศ อย่างไรก็ตาม ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้มัวแต่ยุ่งอยู่กับการจัดการนักเตะในตลาด ทั้งการทำสัญญากับ โรดริโก้ เอร์นานเดซ กาสกานเต้ ผู้ซึ่งเป็นความหวังแห่งการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกของสโมสร ซึ่งหลังจากทีมติดปัญหาในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของการแข่งขันพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เพราะเสียอันดับในตารางให้กับคู่แข่ง ก็ดูเหมือนจะตั้งหลักและกลับมาโฟกัสที่การคว้าถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้ง
ลิเวอร์พูล – ปัจจุบันลิเวอร์พูลครองแชมเปี้ยนส์ลีก, ยูโรเปี้ยนซูเปอร์คัพ และฟีฟ่าเวิลด์คัพ ด้วยความเป็นผู้นำในตารางคะแนนยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2018 และการครองอันดับหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ในพรีเมียร์ลีก จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายคนเชื่อว่าลิเวอร์พูลสามารถชนะการแข่งขันนี้ได้อีกครั้ง แต่จะว่าไปแล้ว หงส์แดงก็ไม่ได้มีแนวการเล่นที่โดดเด่นมากมาย การชนะรอบแบ่งกลุ่มก็เข้ามาได้เพียงเพราะการทำ 1 คะแนนจากการพบกับนาโปลี และการเล่นในฐานะทีมเยือนในยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ก็ไม่ได้เพอร์เฟคทุกเกมส์ หากแต่พวกเขายังคงมีนักเตะที่มีคุณภาพที่จะพาทีมไปถึงรอบชิงชนะเลิศ และชนะชิงถ้วยยุโรปอีกใบ
เรอัลมาดริด – ผู้ซึ่งหวังว่าจะได้เข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายของแชมป์เปี้ยนลีกในฤดูกาลที่แล้ว แต่ก็ชวด ซึ่งความพลาดในครั้งนั้นนำมาซึ่งความผิดหวังครั้งใหญ่ของสโมสร เรอัล มาดริดพลาดให้กับอาแจ็กซ์ และตกรอบของช่วงการแข่งขัน 16 ทีมสุดท้าย และถือเป็นฟอร์มที่แย่ที่สุดตั้งแต่ปี 2010 ฤดูกาลนี้ราชันย์ชุดขาวจึงกลับมาพร้อมความหวังครั้งใหม่ เล่นใหญ่กว่าเดิมด้วยการซื้อตัว เอเด็น ฮาร์ซาร์ด, ลูก้า โจวิก และ เฟอร์แลนด์ เมนดี้ ด้วยการลงทุนเกือบ 300 ล้านปอนด์ และถึงกระนั้นก็ตาม เรอัลมาดริดยังคงเล่นเกมช่วง 16 ทีมสุดท้ายอย่างยากลำบาก โดยเฉพาะนัดที่ต้องพบกับแมนเชสเตอร์ซิตี้ ใครเป็นแฟนราชันชุดขาว มาลุ้นให้ทีมติดหัวตารางคะแนนยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกไปพร้อมๆ กัน
บาร์เซโลน่า – แม้ว่าสเปนจะครองแชมเปี้ยนส์ลีกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ใช่บาร์เซโลน่าที่ได้ยกถ้วยรางวัล บาร์ซ่าอาจชนะลาลีกาใน 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นก็ยังไม่ได้ยกถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกอีกเลย การปรากฏตัวเพียงครั้งเดียวในรอบชิงชนะเลิศของทีมตั้งแต่ 8 สมัยที่แล้ว จึงถือว่าทีมยังทำผลงานในตารางคะแนนยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกได้ไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้หมายความว่าบาร์ซ่ามีนักเตะที่ดีไม่พอ แต่นั่นหมายถึง อะไรก็เกิดขึ้นได้ในช่วงการแข่งขันรอบน็อกเอ้าท์ นอกจากนี้ การมาของ แอนโทนี กรีซมันน์ และ แฟรงก์กี้ เดอ ยง ก็ยังเป็นการเสริมทัพให้แข็งแกร่งจนถึงขนาดมีโอกาสคว้าถ้วยยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก